เปิดประตูแอนฟิลด์: ‘แบรดลีย์’ เด่นสุด , ‘นูนเยซ’ อับโชค
ผลงานของ คอเนอร์ แบรดลีย์ ดาวรุ่งวัย 20 ปี เรียกว่าโดดเด่นเป็นอย่างมาก ด้วยการทำ 2 แอสซิสต์ และ 1 ประตู ในเกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ ถล่ม เชลซี 4-1 ซึ่งสวนทางกับกองหน้าตีนหนักอย่าง ดาร์วิน นูนเยซ ที่ไม่มีโชคในการทำประตู แต่ยังดีที่มีแอสซิสต์จังหวะประตูปิดท้าย
บอกตามตรงว่า ก่อนคิกออฟ ผมคิดว่าผลจะออกมาแบบสูสี เบียด ๆ หน่อย พอเริ่มเกมปุ๊บ ก็ดูเป็นฝั่ง ‘หงส์แดง’ ที่คุมเกมได้เหนือกว่า ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ พอสมควร จริง ๆ ออกแนวชวนง่วงด้วยซ้ำไป แต่กลายเป็นว่า สกอร์ขาดลอยเหนือความคาดหมายของผมไปมากเลย
ดิโอโก โชต้า อยู่ดี ๆ โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วก็มายิงในนาทีที่ 23 จากแอสซิสต์ของ เจ้าหนูแบรดลีย์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขามีส่วนร่วมในแนวรุกน้อยที่สุดในเกมนี้
นาทีที่ 39 แบ็คขวาดาวรุ่งชาวไอร์แลนด์เหนือ ประเดิมประตูแรกใน พรีเมียร์ลีก ได้แล้ว ด้วยการตะบันบอลพุ่งเรียดเสียบเสาไกลอย่างสุดงาม เท่ากับว่า แบรดลีย์ มีประตูในลีกซีซั่นนี้ มากกว่าตัวรุกค่าตัว 100 ล้านของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง อันโตนี ซะแล้ว
ก่อนจบครึ่งแรก ‘เดอะ เรดส์’ มาได้ลูกจุดโทษ ตอนแรกใคร ๆ ก็นึกว่า แมค อลิสเตอร์ จะเป็นคนสังหาร แต่ที่ไหนได้เป็น นูนเยซ ซะงั้น ที่บางคนถามว่า มึงยิงเบา ๆ ไม่เป็นหรอวะ และแล้วชายเบอร์ 9 ผู้มัดผมจุก ก็ยิงชนเสาออก ผมบอกในใจตัวเองหลังจากจังหวะนี้เพียงสั้น ๆ ว่า “กูว่าแล้ว”
ไอ้หนุ่มแบรดลีย์ ทำอีก 1 แอสซิสต์ด้วยการเปิดบอลให้ โดนิมิก โซโบสสไล โขกตุงตาข่ายในนาทีที่ 65 ผมบอกเลยว่า เราไม่ต้องไปซื้อแบ็คขวาแล้ว เพราะเรามีแบ็คขวาคนใหม่แล้ว คนนี้แหละใช่เลย อ้าว แล้ว เทรนต์ ละ จะเอาไง ก็เอาไปเล่นมิดฟิลด์ไง
หลุยส์ ดิอาซ กระทุ้งประตูชัยในนาทีที่ 79 จากแอสซิสต์ของ นูนเยซ ถือซะว่าเป็นของขวัญปลอบใจที่วันนี้ยิงไม่เข้าเลยก็แล้วกันนะ แต่เสียดายที่เก็บคลีนชีตไม่ได้ เพราะโดน เอ็นคุนคู ยิง 8 นาทีก่อนหน้านี้
ทั้งคู่จะเจอกันอีกครั้งในนัดไฟนอล อีเอฟแอล คัพ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ หวังว่า ‘น้องพอช’ จะเตรียมตัวมาเจอ ‘พี่คล็อปป์’ ดีกว่านี้นะ
ไหน ๆ เจอร์เกน คล็อปป์ จะอยู่กับ ลิเวอร์พูล เป็นซีซั่นสุดท้าย งั้นขอให้เขาประเดิมโทรฟีรายการแรกของซีซั่น ด้วยการเอาชนะนัดชิงฯ ลีกคัพ ด้วยเถิด ส่วนอีก 3 รายการทั้ง พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปาลีก ก็ค่อยเป็นค่อยไป
เขียนโดย The Lite Team.